ความตายกำลังมาเยือน
คืนหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว "ฉันหยุดหายใจขณะนอนหลับ" โชคดีที่กลไกอัตโนมัติในการรักษาชีวิตภายในร่างกายยังคงทำงาน ซึ่งมันได้ช่วยชีวิตฉันไว้ การสะดุ้งตื่นขึ้นแล้วหัวใจเต้นแรงมากร่วมกับอาการมึนงงเพราะสมองขาดเลือดจากหัวใจไปหล่อเลี้ยงเมื่อหยุดหายใจขณะหลับ นี่คือการเตือนครั้งแรก
คนส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยสังเกตอาการเตือนภัยของกลไกภายในร่างกาย ฉันก็เป็นเช่นนั้น ไม่ได้สนใจอาการผิดปกติแต่อย่างใด เข้าใจว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยิ่งถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะโทษไปถึงว่าผีสางมาอำเล่นไปอีก ใครจะไปฉุกคิดว่า อาการเหมือนผีอำ และการไหลตาย อาจจะมีสาเหตุเริ่มต้นมาจากการทำงานหนักและการขาดการออกกำลังกายนี่เอง
ภาพโดยเข้าของบทความ : บุกสำนักเส้าหลิน
สูงสุดคืนสามัญ
มนุษย์ทุกคนล้วนรักชีวิต แม้ว่าร่างกายออกอาการเตือนแรก ๆ เราจะไม่ทันสังเกตหรือฉุกใจคิด แต่พอมันปรากฏถี่ขึ้น 2-3 ครั้งในหนึ่งเดือนถัดไป สุดท้ายมันเกิดขึ้นติด ๆ กัน 2 คืน ... ฉันตัดสินใจทันที "ลาออกจากงาน" !! นั่นคือ กลับหัวกลับหาง กลับทางเดินชีวิต จากการเป็น "ท่าน" ที่เป็นผู้บริหาร สู่การเป็น "คน" ที่ไม่ใช่ใครเลย
การตัดสินใจเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเป็นการทำโดยกระทันหัน แต่มันได้ผ่านการคิดไตร่ตรองและวางแผนก่อนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดีแล้วระดับหนึ่ง ทั้งเรื่องของเปอร์เซ็นต์การแบ่งเงินเก็บออกเป็น เงินออม เงินประกันชีวิต และเงินที่ต้องใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยวางเป้าหมายไว้ว่าจะงดการทำงานหลักอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลา 1 ปี หรือมากกว่านั้น และลดการทำงานฟรีแลนท์ การทำเว็บไซต์ งานเขียนบทความ และงานออกแบบกราฟฟิค ส่งขายทางออนไลน์ ให้เหลือเพียง 10%
ภาพโดยเจ้าของบทความ : กับเพื่อนชาวตะวันตกที่สำนักมวย
ทำไมต้องเป็น "มวยไทเก๊ก" ? ...
การตัดสินใจของคนเรานั้น มีปัจจัยอยู่หลายอย่าง แต่ปัจจัยสำคัญที่ผู้คนทั่วไปใช้มากที่สุดก็คือ การใช้ประสบการณ์ ข้อสนเทศและทางเลือก
เหตุผลของฉันสำหรับการเลือก "มวยไทเก๊ก" ก็เพราะว่า
ประการแรก มันเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด จังหวัดบ้านเกิดของฉัน ลูกหลานจีนและคนจีนทั่วไปล้วนฝึกมวยนี้ และฉันก็เคยฝึกมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยและทำงาน
ประการที่สอง มวยไทเก๊ก นั้นเป็นศิลปการต่อสู้ของจีนที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานนับพันปี และมีรายงานผลการวิจัยทั้งการแพทย์ตะวันตกและตะวันออกว่ามีผลดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้านอย่างแท้จริง
ประการสุดท้าย การฝึกมวยไทเก๊กอย่างถูกวิธีนั้น ปรากฏผลที่เห็นได้ชัดในเชิงประจักษ์ เพราะหลักการของมวยไทเก๊ก เน้นความเคลื่อนไหวที่ผ่อนคลาย อิริยาบทที่แช่มช้า สง่างาม และการรักษาสมดุลย์ทั้งกาย-ใจ ดังนั้นจึงเป็นวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกเพศ วัย และทุกช่วงอายุ
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ควรทำให้หายสงสัยได้ว่า เหตุใดศาสตร์แห่งการรักษาและการฟื้นฟูสุขภาพของจีนตั้งแต่สมัยโบราณจึงกลายเป็นศิลปวัฒนธรรมประจำชาติที่ทั้งชาวจีนและชาติตะวันตกนิยมเล่นกันอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นแพทย์จีนหรือแพทย์ฝ่ายตะวันตกต่างล้วนแนะนำให้คนไข้ใช้มวยไทเก๊กเป็นวิธีหนึ่งในการออกกำลังกายอีกด้วย
ทั้งหมดนี้นำไปสู่ผลการตัดสินใจของฉันในการเลือก "มวยไทเก๊ก"
ภาพโดยเจ้าของบทความ : กับเพื่อน ๆ ชาวจีน และชาวเนเธอแลนด์
ถึงเวลาบินไป "จีน" แล้ว
ในประเทศไทยมีการฝึกมวยไทเก๊กกันตามสวนสาธารณะหลายแห่ง แต่ทำไมฉันต้องบินไปถึงประเทศจีน คำตอบง่ายมาก หลัก ๆ เลยก็คือ จะไปเที่ยวให้ทั่วประเทศจีนนั้นเอง
ใคร ๆ ก็ทราบว่าประเทศจีนอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงามตระการตา ทั้งทิวทัศน์ธรรมชาติอลังการน่าตื่นตะลึง รวมทั้งเต็มไปด้วยแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่เกินกว่า 4,000 ปี
ที่สำคัญประเทศจีนเป็นแหล่งกำเนิดของมวยไทเก๊ก ซึ้งหมู่บ้านที่ฉันไปฝึกมวยนั้น ก็คือ หมู่บ้านตระกูลเฉิน หรือ เฉินเจียโกว (陈家沟) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมวยไทเก๊กตระกูลเฉิน (陈氏太极拳) ที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
ได้อะไรจากการตัดสินใจครั้งนี้? ...
ประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่ฉันได้รับจากการตัดสินใจครั้งนี้ มากเกินกว่าจุดมุ่งหมายดั้งเดิมที่คิดไว้เพียงว่าจะรักษาฟื้นฟูสุขภาพเท่านั้น นั่นก็คือ "การได้เรียนรู้ชีวิต" และ "วิธีการมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข" ซึ่งฉันสรุปสั้น ๆ เป็นข้อ ๆ คือ
1. ฉันโชคดีมากที่ตัดสินใจทิ้งทั้งตำแหน่งและเงินเดือน ทำตัวให้ธรรมดาที่สุด ฉันบินไปอยู่ในหมู่บ้านชนบทที่ในเวลานั้น (สิบกว่าปีก่อน) ไม่มีทั้งทีวี ไม่มีทั้งสัญญานอินเทอร์เน็ต และที่วิเศษที่สุดคือ ไม่มีใครรู้จักฉันเลย นี่ทำให้ฉันพบว่า "ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นใครเลยในโลกนี้ นอกจากเป็นตัวฉันเอง" และ "ไม่จำเป็นต้องให้ใครในโลกนี้มารู้จักฉันเลย เพราะฉันรู้จักตัวเองดีพอ"
2. “สิ่งที่มีค่าที่สุดของชีวิต คือ สุขภาพกาย-ใจ ที่แข็งแรงสมบูรณ์อันเกิดจากการดูแลใส่ใจไปตามธรรมชาติ” นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้เงินทองซื้อหามาได้ แน่นอนว่า หลังจากที่ฉันต้องใช้วินัยอย่างสูงในการฝึกฝนและดำรงชีวิตในต่างแดนเพียงลำพัง ตื่นตั้งแต่เช้ามืดออกวิ่ง กลับมายืดหยุ่นร่างกาย รับประทานมื้อเช้า และฝึกฝนมวยในภาคเช้า หลังจากรับประทานมื้อกลางวัน ก็ฝึกฝนต่อในภาคบ่าย ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ก่อนที่จะรับประทานมื้อเย็นและเข้านอนหลับสนิทตั้งแต่หัวค่ำ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย จากเหนื่อยที่สุดจนกลับกลายเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน ผลที่เกิดขึ้นชัดเจนมาก คือ น้ำหนักที่ลดลงจาก 98 กิโลกรัม สู่ 52 กิโลกรัมในช่วง 3 เดือนแรก และไม่ขึ้นมาอีกเลยในช่วงสิบกว่าปีมานี้ ที่สำคัญที่สุด คือ อาการของโรคทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิสซินโดรม ไมเกรน และอาการแพ้อาหารต่าง ๆ หายไปโดยสิ้นเชิง ความดันโลหิตปกติ ไม่มีเบาหวาน และผลเอ็กซเรย์หัวใจไม่พบหัวใจโต ซึ่งเดิมแพทย์เคยวินิจฉัยไว้อีกด้วย
3. “การออกกำลังกายที่ถูกต้อง ย่อมมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกาย-ใจอย่างแน่นอน” การออกกำลังกายที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาความเยาว์วัยทั้งภายในและภายนอก ซึ่งเป็นที่มาของการมีอายุที่ยืนยาวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
สุดท้ายอยากจะกล่าวว่า แม้กรณีของฉันอาจแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ในเรื่องของการเลือกวิธีการออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายทุกชนิดล้วนมีประโยชน์ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะถนัดในด้านใด วิ่ง ว่ายน้ำ ชกมวย โยคะ เข้าฟิตเนส หรือแม้แต่เพียงแค่การเดิน หรือการแกว่งแขน หากว่ามีจุดมุ่งหมายในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ และมีวินัยในการทำอย่างต่อเนื่องจริงจัง ทำอย่างถูกต้องและพอประมาณ มั่นใจได้เลยว่าต้องเป็นผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างแน่นอน
พร้อมที่จะรักชีวิตกันหรือยัง? ... เรามาออกกำลังกายกันค่ะ
ภาพโดยเจ้าของบทความ : ฉันและเพื่อน ๆ ที่ประเทศไทย, สวนลุมพินีฯ
June 11, 2020 at 12:02PM
https://ift.tt/3hdAnIO
เมื่อฉันทิ้งเงินเดือนหลักแสน ไปฝึก “มวยไทเก็ก” ที่จีน - ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ TrueID In-Trend แพลตฟอร์มบทความ Lifestyle สำหรับคนหนุ่มสาว เกี่ยวกับชุมชนและความหลงใหลใน ชีวิตประจำวัน, ร้านอาหาร และแฟชั่นความงาม
https://ift.tt/3dDNfpA
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เมื่อฉันทิ้งเงินเดือนหลักแสน ไปฝึก “มวยไทเก็ก” ที่จีน - ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ TrueID In-Trend แพลตฟอร์มบทความ Lifestyle สำหรับคนหนุ่มสาว เกี่ยวกับชุมชนและความหลงใหลใน ชีวิตประจำวัน, ร้านอาหาร และแฟชั่นความงาม"
Post a Comment