Search

แนทเธอรีน ไม่เคยคิดอยากลาออก BNK48 เผยฝันที่ทำให้เป็นจริงไม่ได้ - ไทยรัฐ

เราย้อนถามถึงวันแรกๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวงไอดอลชื่อดัง BNK48 รุ่นที่ 2 ซึ่งแนทเธอรีนบอกว่าเป็นความชอบของเธอจริงๆ กับการเป็นไอดอล “ตอนนั้นดู BNK48 แล้วชอบ อยากเต้น อยากใส่ชุดสวยๆ แบบนั้นจัง และรู้สึกว่า BNK48 สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้เยอะ และหนูอยากเป็นแบบนั้นบ้าง อยากเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไปออดิชั่น BNK48

ตอนแรกเพื่อนรอบตัวพูดหมดเลยว่าไม่ได้หรอก ไม่มีทาง ด้วยความที่เราป่วยในตอนนั้น หนูต้องพยายามหนักมากในเวลาซ้อม พอได้มาเป็นเหนื่อยกว่าที่คิดเยอะมาก แต่มันสนุก ได้เต้น ได้อยู่กับเพื่อน ถามว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของเราไหมที่ไปอยู่ตรงนั้น หนูคิดว่าทุกช่วงเวลามันมีทั้งเหตุการณ์ที่ดีและไม่ดีแหละ แต่หนูรู้สึกขอบคุณทุกช่วงเวลาทั้งตอนที่อยู่ BNK48 หรือตอนไหนก็แล้วแต่ เพราะมันหล่อหลอมให้เราเป็นเรา ทุกอย่างให้บทเรียนชีวิตกับเรา

ถ้าถามว่าจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรมั้ย หนูจะไม่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรเลย เรื่องที่ไม่ดีก็ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ เพราะมันทำให้เข้มแข็งแบบทุกวันนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นแค่เราคนเดียวมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก ดังนั้นหนูคิดว่าเราควรเข้มแข็ง และเข้าใจว่าบทเรียนที่เราได้คืออะไร แค่นั้นพอแล้ว ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนมัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอ”

ไม่เคยน้ำตาตกเพราะดราม่า

ตลอดระยะเวลาที่เคยเป็นหนึ่งในเมมเบอร์ BNK48 แนทเธอรีนเป็นหนึ่งในคนที่เจอดราม่าหนักมาก แต่ก็รับมือได้โดยไม่เคยเสียน้ำตาแม้แต่ครั้งเดียว “หนักมากค่ะ แต่หนูไม่เก็บอะไรมาใส่ใจเลย ไม่เคยมีดราม่าครั้งไหนสักครั้งเดียวที่ทำให้หนูน้ำตาตก อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับครอบครัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่เทรนมาดีมาก ซึ่งตัวหนูเองก็ไม่ได้ทำได้ตั้งแต่แรก แต่คุณพ่อคุณแม่สอนแบบนี้ตลอด และมันทำให้เราแข็งแกร่ง เข้มแข็งได้ไว

ทุกคนร้อยพ่อพันแม่ แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง เราไม่สามารถบังคับใครมาชอบเรา หรือคิดเหมือนเราได้หมดทุกคน และเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะไม่ชอบเราหรือด่าเรา ทุกคนมีสิทธิ์พูดเพราะทุกคนมีปากคนละอัน ดังนั้นใครจะพูดอะไรก็ได้ และทุกคนก็มีสองมือ ดังนั้นทุกคนจะพิมพ์อะไรก็ได้ Cyber Bully เป็นสิ่งที่น่าเศร้า ไม่ควรทำจริงๆ แต่พูดตามตรงว่ามันยากที่จะหมดไปอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้นการแก้ที่ง่ายที่สุดคือแก้ที่ตัวเอง เราไม่ควรเก็บทุกเรื่องมาใส่ใจ สุดท้ายคำพูดเหล่านั้นก็กลับไปสู่คนที่พูดออกมา ถ้าเราปล่อยวางได้จริงๆ ต่อให้เราเปิดดูหรือไม่เปิดดูคำด่ามันก็มีค่าเท่ากัน หนูเลื่อนดูทุกคอมเมนต์เลยนะ บางอันหนูอ่านแล้วสงสารเขาเนอะ เพราะมันมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์กว่านี้เยอะเลย เขาน่าจะเอาเวลาไปทำตรงนี้มากกว่า”

นาทีตัดใจลา BNK48

เมื่อถามว่าวันที่ตัดสินใจจบการศึกษาจาก BNK48 คิดนานมั้ย แนทเธอรีนบอกว่าไม่นาน แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังอยากเป็น BNK48 ไม่อยากออกจากวงเลย “ไม่นานค่ะ แต่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะออกจากวงค่ะ จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่อยากออกเลยค่ะ แต่สาเหตุที่ตัดสินใจแบบนั้น เรื่องนี้เป็นคดีอยู่ในศาล ขออนุญาตไม่พูดถึงแล้วกัน แต่อยากบอกว่าจนถึงวันนี้จริงๆ ยังอยากเป็น BNK48 ไม่เคยไม่อยากเป็นเลยค่ะ

มันจบเร็วกว่าที่เราคิดไว้ เรามองอนาคตกับ BNK48 ไว้นานมาก แต่ช่วงเวลามันปุบปับมากเลย คือก่อนหน้านี้มันมีหลายเหตุการณ์ที่เข้ามาแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค แต่ว่าที่ตัดสินใจออกคือมันมีเหตุการณ์นึงที่เป็นตัวแปร ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญมาก หลังจากเหตุการณ์นั้นจบปุ๊บ หนูเลยตัดสินใจว่าโอเค...พอแล้ว ภายในวันเดียวค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นไม่เคยคิดเลยค่ะ”

ตื่นเต้นขึ้นศาล มองเป็นประสบการณ์ชีวิต

เราถามต่อว่าเคยคิดไหมว่าทุกอย่างมาถึงจุดนี้ได้ยังไง เพราะแนทเธอรีนถูกฟ้องจากอดีตต้นสังกัด นักร้องสาวตอบทันที “คิดค่ะ เพราะสำหรับหนู หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กมาก เรื่องมันไม่มีอะไรเลยค่ะ ข้อเท็จจริงที่มีอยู่มันไม่สามารถนำไปฟ้องศาลได้เลย หนูไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ชีวิต

อย่างการขึ้นศาล หนูไม่ได้มองว่ามันน่ากลัว หนูรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ขึ้นศาลครั้งแรก รู้สึกว่าหนูอยากได้ประสบการณ์จากตรงนี้ หนูอยากรู้วิธีการสู้ในศาล คือหนูชอบการเรียนรู้มาก นี่ก็เป็นหนึ่งการเรียนรู้ที่ดีเหมือนกันนะ เด็กอายุเท่าเราสักกี่คนที่จะเจอเรื่องขึ้นศาลแบบนี้ การที่เราเจอมันก็ดีแล้ว หนึ่งคือเรื่องมันเล็กมาก เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ไม่แพ้ สองมันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลยค่ะ ถามว่าจะจบเมื่อไหร่ เหมือนสิ้นปีน่าจะได้คำพิพากษาจากศาลชั้นต้นค่ะ”

ถึงแม้จะไม่เครียดที่จะต้องขึ้นศาล แต่แนทเธอรีนยอมรับว่าเสียใจที่ถูกอดีตต้นสังกัดฟ้องเพราะเคยเป็นครอบครัวเดียวกัน “หนูไม่เครียดเลยค่ะ แต่ถามว่าเสียใจไหม แน่นอนค่ะ เพราะว่าเราเคยเป็นครอบครัวเดียวกันมาก่อน แต่วันนี้เราต้องมาขึ้นศาลกัน หนูก็คิดไม่ถึงเหมือนกันนะคะ ไม่คิดว่าจะต้องเจอขนาดนี้เหมือนกัน ถามว่ากระทบกับงานมั้ย มีค่ะ บางคนก็มองว่าจะเป็นเรื่องใหญ่รึเปล่า ดูขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลย

แต่ต้องดูบริบทข้างในว่าเขาฟ้องอะไร และสิ่งที่ฟ้องมันสามารถฟ้องได้จริงหรือเปล่า มันไม่ใช่ว่าทันทีที่โดนฟ้องจะเป็นคนผิดหรือไปกระทำเขา มันเป็นปัญหาคนสองคน ไม่มีคนอื่นมาเกี่ยว ดังนั้นเรากับคนอื่นสามารถทำงานได้ตามปกติ คนที่เข้าใจเราก็มีค่ะ ถ้ามีหลายคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น หนูก็พร้อมเล่าให้ฟังนะคะ ก็รอให้ทุกอย่างคลี่คลายก่อนค่อยว่ากัน”

บทบาทศิลปินเดี่ยว

ถึงแม้จะไม่อยากออกจาก BNK48 แต่เพราะสถานการณ์ที่เป็นไป ประกอบกับความฝันในการเป็นนักร้องยังคงอยู่ แนทเธอรีนจึงสานฝันตัวเองต่อด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยว ทำซิงเกิลเพลง “จีบก่อนผิดไหม” โดยมีโอกาสร่วมงานกับมืออาชีพ ทั้ง 2 หนุ่ม แทน-คัตโตะ วงลิปตา รวมไปถึง เอฟู ณรงค์ศักดิ์ ศรีบรรฎาศักดิ์วัชรากรณ์ โปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง

“ตื่นเต้นมากค่ะ เหมือนปกติทุกครั้งเราอาจจะยังไม่ได้โชว์ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนที่เราจะมาเป็นศิลปินเดี่ยว เราก็มีการได้ฝึกร้องฝึกเต้นมาก่อน มีการเรียนเพิ่ม ใช้เวลาอยู่หลายเดือนเหมือนกัน เพลงนี้แตกต่างจากตอนที่อยู่ BNK48 เพราะว่าเมื่อก่อนตอนฟังเสียงตัวเองตอนที่อยู่ในวง ใช้ความพยายามมากๆ เลยในการแยกเสียงตัวเองว่าเราร้องท่อนไหน เสียงเรารวมกับเพื่อนๆ หลายคน ร้องยังไง แต่พอเราได้ยินเสียงตัวเองคนเดียวชัดๆ รู้สึกดีใจค่ะ แต่อาจจะเหงานิดหน่อยเวลาเดินสายคนเดียว ไม่มีเพื่อนนั่งคุยด้วย

ถามว่ามาร่วมงานกับพี่ๆ วงลิปตาได้ยังไง หนูเป็นสตรีมเมอร์ ทำงานกับค่ายแฮชแท็ก และทีนี้ทางแฮชแท็กรู้จักพี่ๆ ลิปตาก็เลยติดต่อแนะนำให้มาทำเพลง พอมาร่วมงานก็สนุกค่ะ พี่แทนกับพี่คัตโตะใจดีมาก พี่ๆ ถามตลอดว่าอยากได้อะไร ต้องการแบบไหน เขาให้เราเป็นคนตัดสินใจอะไรหลายๆ อย่าง เพลงนี้ได้พี่เอฟูมาทำดนตรี เขาทำแนวนี้อยู่แล้ว ก็ดีใจค่ะที่มีคนซัพพอร์ตเยอะขนาดนี้ ต้องขอบคุณทางแฮชแท็ก พี่ๆ ลิปตา และพี่เอฟูด้วยค่ะ”

เมื่อถามว่ามีส่วนร่วมกับเพลงยังไง แนทเธอรีนถามกลับว่า “เลือกพระเอกเอ็มวีนี่นับมั้ยคะ” ก่อนจะหัวเราะชอบใจและเล่าต่อถึงเหตุผลที่เลือก เน๋ง ศรัณย์ มาร่วมงานว่า “เขาตรงคาแรกเตอร์กับเพลงค่ะ หนูอยากได้ผู้ชายลุคเรียบร้อยกว่าหนูหน่อย (หัวเราะ) เป็นผู้ชายที่มุ้งมิ้ง เรียบร้อย น่ารัก พูดน้อยๆ ซึ่งคนน่ารักเงียบๆ หายากเหมือนกันนะ พอมาเจอตัวจริงก็พูดน้อยค่ะ ได้ตามที่ต้องการ แต่พี่เน๋งเขาบอกว่าเวลาทำงานเขาเป็นแบบนี้แหละ”

อีกฝันที่เคยอยากทำ

เราถามว่าเป็นการเปิดโลกกว้างเลยไหม หลังออกมาร้องเพลงคนเดียว แนทเธอรีนบอกว่าเป็นการเดินทางที่ท้าทาย น่าตื่นเต้น พร้อมทั้งเผยอีกหนึ่งความฝันที่เคยอยากทำคือการเป็นหมอ แต่สานฝันไม่ได้เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวย

“หนูรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้มันท้าทาย น่าตื่นเต้น สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยค่ะ เมื่อก่อนหนูยังไม่เคยคิดภาพตัวเองมีอะไรแบบนี้เลยนะคะ จริงๆ ก่อนหน้านี้อยากเป็นหมอ เรียนพิเศษหนักมาก ด้วยความที่เรียน ร.ร.เตรียมอุดมฯ ร้อยละ 90 ของเด็กเตรียมอุดม สายวิทย์อยากเป็นหมอ ก็เป็นกระแสสังคมมันพาไป แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราอยากเป็นจริงๆ รึเปล่า

แต่ดีนะคะที่คุณพ่อคุณแม่เบรกไว้ ไม่งั้นคงไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้เหนื่อยด้วยค่ะ อีกอย่างเมื่อก่อนสุขภาพไม่ดีคือเป็นภูมิแพ้ แต่ตอนนี้หายแล้วนะคะ ตอนนั้นเราอยากรักษาคน แต่เราไม่รู้ว่าเป็นหมอต้องทำอะไร ต้องอดนอน สภาพร่างกายเราพร้อมรึเปล่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าตั้งใจเรียนก็ทำได้ แต่คุณพ่อคุณแม่บอกว่าการเลือกอาชีพ แค่เรียนวิชานั้นได้ดี ไม่ได้หมายความว่าเราทำอาชีพนั้นได้ดีนะ เขาบอกว่าหนูไม่เหมาะ ไม่ควรเรียน

และมีครั้งนึงที่หนูป่วยจนเข้าไอซียู เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ห้ามสอบวิชาเฉพาะแพทย์ และเคยให้หยุดเรียนไปเลยปีนึงเพื่อพักและทำร่างกายให้แข็งแรง ก็ออกกำลังกายหนักมาก มาเป็น BNK48 อยู่ดีๆ กลายเป็นศิลปินเดี่ยว มันเกินความฝันของเด็กคนนึงที่เคยป่วยหนักมาก และไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากอยากเรียนหนังสือให้ดีและอยากเป็นหมอ ไม่คิดว่าชีวิตตัวเองจะมีอย่างทุกวันนี้จริงๆ ก็เสียดายนะคะที่ไม่ได้เป็นหมอ แต่เข้าใจ อีกอย่างคนเป็นภูมิแพ้แพ้เยอะไปหมด เป็นหมอไม่ได้อยู่แล้วค่ะ"

ก่อนจะทิ้งท้ายว่าเพราะไอซียูพลิกชีวิต ทำให้ทุกวันนี้ของเธอเหมือนเป็นโลกใบใหม่ “คือหนูผ่านอะไรหนักๆ มาเยอะ จนรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าทำไม่ได้ เพราะผ่านเรื่องยากๆ มาแล้ว เรื่องความฝัน หนูคิดว่ามีโอกาสทำได้อยู่แล้ว ในเมื่อผ่านเรื่องหนักหนามาแล้ว หนูไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง วันนี้ผ่านมันมาได้ มันเหมือนเรายกภูเขาออกจากอก โลกใหม่สวยงามจริงๆ ไม่ต้องทรมานกับทุกวันแล้ว ทุกเช้าเวลาตื่นมามีความสุขมาก ขอบคุณที่หนูยังมีชีวิต หนูจะใช้เวลาทุกวันให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ”.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ, BNK48 Office
กราฟิก : Phantira Thongcherd

Let's block ads! (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( แนทเธอรีน ไม่เคยคิดอยากลาออก BNK48 เผยฝันที่ทำให้เป็นจริงไม่ได้ - ไทยรัฐ )
https://ift.tt/3p0FxLi
บันเทิง

Bagikan Berita Ini

0 Response to "แนทเธอรีน ไม่เคยคิดอยากลาออก BNK48 เผยฝันที่ทำให้เป็นจริงไม่ได้ - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.