ติง จุ้น ฮุยได้รับเลือกให้เป็นบอร์ดบริหารคิวโลกWPBSA - สยามกีฬา

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องของ ติง จุ้น ฮุย ขออธิบายถึง 2 องค์กรคิวโลกระหว่างสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) และเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) กันสักนิดหน่อย เพราะเชื่อว่าแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อย ต่างรู้สึกสับสนว่า 2 องค์กรนี้ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

เริ่มจากสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) ที่มี เจสัน เฟอร์กูสัน เป็นประธานสมาคม มีหน้าที่ในการพัฒนากีฬาสนุกเกอร์ให้ได้รับความนิยมไปทุกภูมิภาคทั่วโลก หนึ่งในภารกิจสำคัญที่ผ่านๆมา ก็คือการผลักดันให้กีฬาสนุกเกอร์ เข้าแข่งขันในโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับบิลเลียด, พูล และ แครอมบอล ภายใต้ชื่อกีฬาว่า "บิลเลียดสปอร์ต"

นอกจากนี้ ยังเป็นองค์กรใหญ่ ที่ดูแลการแข่งขันของสนุกเกอร์หลายทัวร์ อาทิ เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ทัวร์สำหรับสนุกเกอร์อาชีพโลก, เวิลด์วีเมนสนุกเกอร์(WWM) ทัวร์สำหรับสนุกเกอร์หญิง, เวิลด์ซีเนียร์ทัวร์ ทัวร์สำหรับนักสนุกเกอร์อาวุโส และอื่นอีกมากมาย

อีกทั้ง ยังจัดการแข่งขันในรายการระดับสมัครเล่นอีกมากมาย อาทิ WSF Open, WSF Junior Open, Q School และชาลเลนจ์ทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์ของมือสมัครเล่น โดยจะคัดเอานักสอยคิวที่ชนะจากการแข่งขันเหล่านี้ ได้สิทธิ์ดวลคิวในทัวร์อาชีพของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) นั่นเอง

ส่วนเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ที่มี แบร์รี่ เฮิร์น เป็นประธาน เป็นองค์กรที่ดูแลจัดการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลก จะมี 128 คนเท่านั้นที่ได้สิทธิ์ร่วมแข่งขัน โดยอาจจะมีมือไวลด์การ์ดร่วมดวลคิวบ้างบางรายการ

อย่างที่แฟนสนุกเกอร์ได้ดูการถ่ายทอดสดอยู่บ่อยๆ ก็คือการแข่งขันเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์นั่นเอง ซึ่งเป็นทัวร์ที่รวบรวมสุดยอดนักสอยคิวระดับโลก มาห้ำหั่นประชันเพลงคิวกัน โดยมีเงินรางวัลชิงชัยจำนวนมหาศาล

เกริ่นมานาน เพื่อให้แฟนสนุกเกอร์ได้ทราบถึงบทบาทของ 2 องค์กรคิวโลกระหว่าง สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) และ เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ว่าแตกต่างกันอย่างไร และต้องทำงานร่วมแบบไหน เพื่อพัฒนาให้สนุกเกอร์กลายเป็นกีฬายอดนิยมมากขึ้น ก็ได้เวลาเข้าสู่เรื่องราวของ ติง จุ้น ฮุย เสียที

ในระหว่างการประชุมวิสามัญของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) ครั้งล่าสุด ปรากฏว่ามีวาระที่สำคัญอยู่หนึ่งเรื่อง ก็คือการเลือกนักสนุกเกอร์ที่ยังอยู่ในทัวร์อาชีพของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ เข้ามาเป็นบอร์ดบริหารเป็นจำนวน 2 คนด้วยกัน

ทว่ามีผู้ถูกเสนอชื่อให้พิจารณาถึง 8 คน ได้แก่ ติง จุ้น ฮุย มือ 9 ของโลกจากจีน, โจ เพอร์รี่ มือ 19 ของโลกจากอังกฤษ, มาร์ค เดวิส มือ 45 ของโลกจากอังกฤษ, เทียน เปง เฟย มือ 54 ของโลกจากจีน, ไนเจล บอนด์ มือ 69 ของโลกจากอังกฤษ, แบร์รี่ พินเชส มือ 84 ของโลกจากอังกฤษ, ร็อด ลอว์เลอร์ มือ 92 ของโลกจากอังกฤษ และ ลี วอล์คเกอร์ มือ 121 ของโลกจากเวลส์

ปรากฏว่า ติง จุ้น ฮุย และ ไนเจล บอนด์ ได้รับเลือกให้เป็นบอร์ดบริหารคนใหม่ของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) โดยจะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายผู้เล่น(Player Director) ร่วมกับอีก 3 นักสอยคิวรุ่นเดอะ ได้แก่ เคน โดเฮอร์ตี้ อดีตแชมป์โลกปี 1997 ชาวไอร์แลนด์ ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 96 ของโลก, ปีเตอร์ ไลนส์ มือ 98 ของโลกจากอังกฤษ และ ไมค์ ดันน์ อดีตนักสอยคิวชาวอังกฤษ ที่เพิ่งประกาศแขวนคิวเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพื่อไปลุยงานโค้ชแบบเต็มตัว

ด้าน เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทั้ง ติง จุ้น ฮุย และ ไนเจล บอนด์ มาร่วมเป็นบอร์ดบริหาร หวังว่ามุมมองกีฬาสนุกเกอร์ของทั้งคู่ ที่เคยผ่านเข้าชิงศึกชิงแชมป์โลกมาแล้ว จะเป็นประโยชน์ ในการพัฒนากีฬาสอยคิวให้ได้รับความนิยม จนกลายเป็นกีฬาอาชีพที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

การเข้ามารับตำแหน่งบอร์ดบริหารของ ติง จุ้น ฮุย นับเป็นอีกครั้งที่นักสอยคิวอันดับท็อป 16 ของโลก ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนากีฬาสนุกเกอร์ให้กับองค์กรคิวโลก ต่อจาก ฌอน เมอร์ฟี่ อดีตแชมป์โลกปี 2005 ชาวอังกฤษ ที่ในเวลานี้รั้งอันดับ 7 ของโลก

หากยังจำกันได้ ในตอนนั้น ฌอน เมอร์ฟี่ เข้าไปมีบทบาทสำคัญ กับการพัฒนากีฬาสนุกเกอร์หลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเป็นตัวแทนของกีฬาสนุกเกอร์ ช่วยพรีเซ็นท์ต่อคณะกรรมการคัดเลือกชนิดกีฬา ในโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงปลายปี 2018

การทำหน้าที่เป็นบอร์ดบริหารของ ฌอน เมอร์ฟี่ ในวันนั้น แม้ว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อวงการสนุกเกอร์ จนแฟนกีฬาแม่นรู อาจมีโอกาสได้เห็นกีฬาสอยคิว ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในอีก 3 ปีข้างหน้า ณ กรุงปารีส

ทว่าก็ต้องแลกมาด้วยผลงานที่ร่วงอย่างน่าใจหาย เพราะการเป็นผู้บริหาร ส่งผลให้เขาไม่มีเวลาซ้อมมากนัก จนทำให้ในฤดูกาล 2018-2019 เขาตกรอบแรกถึง 6 รายการเลยทีเดียว และตกรอบ 2 อีก 4 รายการ จนในที่สุด เมอร์ฟี่ ต้องตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งบริหารของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA)

การเข้ามาดำรงตำแหน่งบอร์ดบริหารของ ติง จุ้น ฮุย น่าสนใจว่าจะทำให้นักสอยคิวจากแดนมังกรรายนี้ มีชะตากรรมเหมือนกับ ฌอน เมอร์ฟี่ เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นบอร์ดบริหารองค์กรคิวโลกหรือไม่

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง