จนมาล่าสุด แม้ว่าทั่วโลกจะยังพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามีการเข้าถึงวัคซีนป้องกันกันได้มากขึ้น ในหลายประเทศ ทยอยฉีดให้ประชากรของตนเอง นำมาซึ่งมาตรการผ่อนคลายกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุด เป็นประเทศที่มากไปด้วยการแข่งขันกีฬาอย่างอังกฤษ
เมื่อทางบอร์ริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของเมืองผู้ดี ประกาศผ่อนปรนกฎล็อกดาวน์ให้แฟนๆสามารถเข้าชมกีฬาในสนามได้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้แฟนบอลถูกสั่งห้ามเข้ามาชมการแข่งขันในสนามตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มกลับมาแพร่ระบาดอย่างลุกลามบานปลายอีกครั้ง
โดยในส่วนของกีฬาในร่มนั้นจะอนุญาตให้แฟนๆ เข้าชมได้ 1,000 คน ส่วนกีฬากลางแจ้งให้เข้าชมได้มากถึง 4,000 คน หรืออาจจะน้อยกว่านั้นตามสถานการณ์
ขณะที่ในสนามฟุตบอล ไฟเขียวให้แฟนบอลเข้ามาส่งแรงเชียร์ได้ถึง 10,000 คน หรือ 1 ใน 4 หรืออาจจะน้อยกว่านั้นตามสถานการณ์เช่นกัน
หากเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด แฟนบอลจะสามารถเข้ามาเชียร์ทีมรักได้ในเกมสุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีก ที่มีกำหนดฟาดแข้งกันวันที่ 23 พ.ค.
แม้ว่าศึกเอฟเอ คัพ 2020/21 รอบชิงชนะเลิศ จะมีกำหนดแข่งขันกันวันที่ 15 พ.ค. ที่สนามเวมบลีย์ แต่แฟนบอลก็อาจได้เข้ามาชม เพื่อเป็นการทดสอบมาตรการดังกล่าวก่อน
และจากมาตรการนี้ยังส่งผลดีที่จะทำให้ การร่วมเป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลยูโร 2020 ที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว สามารถจัดได้ในเดือน มิ.ย. รวมถึงการจัดเทนนิสแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้าอันลือชื่อ อย่างวิมเบิลดันก็จะได้กลับมาแข่งขันในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากปีที่แล้ว ต้องยกเลิกไปด้วย
ในส่วนของไทยเรานั้น การผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ล่าสุด ก็มาพร้อมๆกับการนำเข้ามาของวัคซีนป้องกันไวรัสอันตรายตัวนี้ เป็นที่เรียบร้อย
โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค.ได้อนุญาตให้ทุกจังหวัด ยกเว้นเพียงแค่สมุทรสาคร ที่สามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้แล้ว เพียงแต่ในช่วงแรกยังให้จำกัดจำนวนผู้ชมที่เข้าชมในสนาม
กีฬาหลักๆอย่างฟุตบอลไทยลีกอนุญาตให้แฟนบอลเข้าสนามได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ส่วนวอลเลย์บอลไทยลีก ที่รวมกันแข่งขันที่อาคารกีฬานิมิบุตรให้เข้าชมได้ 30 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
เรื่องนี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า มาตรการผ่อนคลายทางด้านกีฬา อนุญาตให้แฟนกีฬาเข้าชมในสนาม ที่มาพร้อมๆกับวัคซีนที่เข้ามา ยังประเทศไทยเราแล้ว ถือเป็นสัญญาณบวก
เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะจะทำให้กีฬาอาชีพในบ้านเรา กลับมามีคนดู มีความคึกคักกันมากขึ้น กีฬาจะดูกันสนุกมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
ไม่เพียงแค่จะทำให้บรรยากาศกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น ยังส่งผลในอีกหลายด้าน จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่าย สร้างรายได้ให้นักกีฬา และผู้เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า ไม่เพียงแค่นั้น ยังจะส่งผลไปถึงบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการร้านค้า ที่จะมีรายได้ตามมาจากการแข่งขันกีฬาอาชีพในแต่ละสัปดาห์อีกด้วย
โดย ดร.ก้องศักดเชื่อว่า หากทุกอย่างกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ กีฬาชนิดต่างๆ กลับมาแข่งขันได้ และมีคนดู นักกีฬามีรายได้ ผู้เกี่ยวข้อง เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้
วงการกีฬาไทยจะมีเงินหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาฟื้นตัว ตามที่กกท. วางเป้าหมายไว้ได้
เรียกได้ว่า ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆ แฟนๆก็จะได้ดูกีฬากันอย่างสนุกเหมือนเคย นักกีฬากลับมามีรายได้ และกีฬายังจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไปได้อีกทาง
เมื่อเศรษฐกิจขยับก็จะได้ลืมตาอ้าปาก
กันเสียที...
กัญจน์ ศิริวุฒิ
https://ift.tt/3bJQT1t
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "แฟนๆ คืนสนามอีกครั้ง กีฬาดูสนุก-เศรษฐกิจขยับ - ไทยรัฐ"
Post a Comment