Search

"ณวัฒน์" ไลฟ์ฟาด "ปัญญา นิรันดร์กุล" ปมทำชีวิตมีความเสี่ยง-เสียขวัญ ตอก "กรรชัย" อย่าคิดว่าเจ๋ง - สยามรัฐ

มหากาพย์แฉยังไม่หมด เมื่อ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” พิธีกรคนดัง ออกมาไลฟ์ สดระบายความรู้สึกอัดอั้น พร้อมงัดหลักฐานเด็ดกรณีที่เกี่ยวข้องกับช่องเวิร์คพ้อยท์ ซึ่งที่เป็นประเด็นเมาท์ต่อมาว่าเจ้าตัวเป็นต้นเหตุให้เกิดคลัสเตอร์ในเวิร์คพ้อยท์นั่นเอง

โดย ณวัฒน์ ไลฟ์ยาวกว่า 40 นาที ว่า “เนื่องจากมีหลายคนสอบถามถึงรายละเอียดกันค่อนข้างเยอะ และมีคนโทร.เข้ามากวนผมค่อนข้างเยอะมาก ผมไม่รับโทรศัพท์ใครนะครับ โดยเฉพาะคุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย คุณโทร.มาเยอะมากเกินไปแล้วนะครับ ผมไม่รับสายใครเลย ต้องขออภัยด้วย ไม่ว่าจะเพื่อนฝูงหรือใครก็ไม่ได้รับ เพราะเป็นนโยบายความปลอดภัยของผมก็เลยไม่รับ

หลายๆ คนก็มาถามผมถึงเรื่องเวิร์คพ้อยท์ จะได้เข้าใจค่อนข้างเร็วขึ้น ประเด็นแรกที่หลายคนถามว่าเกี่ยวอะไรกับน้องตุ๊กกี้ โทร.มาหรือเปล่า อันนั้นผมว่าน่าจะเป็นเพราะน้องน้ำ พูดแล้วอาจจะมีความสั้นไปนิดนึง จริงๆ แล้วคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ผมถามว่าวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผมจะไปมีตุ๊กกี้มาไหม แต่ไม่ได้ถามกับตุ๊กกี้ ผมถามกับการตลาด และได้รับการยืนยันว่ามา เพื่อให้รู้ว่าพิธีกรคือตุ๊กกี้คอนเฟิร์มว่ามา มีการคอนเฟิร์มกลับมาวันที่ 8 มิ.ย. ผมกำลังจับพิรุธอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ก็เลยสแกนว่าพิธีกรอยู่ไหม เมื่อได้รับการคอนเฟิร์มว่าตุ๊กกี้อยู่ ก็มีการส่งมาตามนี้ คือรายการ ห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์

เราคุยกันวันที่ 8 พอวันที่ 9 ผมก็ไปและเอาตัวสว็อป เทส ไปด้วย แต่พอไปถึงไม่มีตุ๊กกี้ ก็คิดว่าถูกหลอกหรือเปล่า เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมพูดไม่ได้ เพราะมีการพูดกันต่อๆ ว่าห้ามพูด ถ้าใครพูดอาจจะถูกโน่นนี่นั่น ก็แอบถามทีมงานว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอารมณ์ที่เป็นพิธีกรคู่ก็ไม่มา ทีมงานเขาก็บอกว่าโควิดเลยไม่มา เขาก็บอกให้ผมไปนั่งคนเดียวก่อน เดี๋ยวจะหาใครขึ้นมาคนนึง แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งแทนซึ่งผมไม่รู้จัก ผมก็แอบกระซิบถามทีมงานคนนึง แล้วเขาก็เมตตาตอบผม ปรากฏว่าตุ๊กกี้สตรีมมิ่งมาจากที่บ้าน สามารถไปหาหลักฐานดูได้ ชื่อรายการ ห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์ ออกอากาศ วันที่ 9 มิ.ย. เวลาเกือบ 9 โมง ผมรู้แน่ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเกิดโควิดเต็มไปหมดแล้ว แต่ให้ผมไป ไปถึงไม่มีตุ๊กกี้และไม่มีอาร์ม ซึ่งผมเซอร์ไพรส์มาก ผมไปทำงาน ผมเอาเงินไปจ่าย แต่ได้แบบนี้ ผมก็ทำงานจนเสร็จ สรุปตุ๊กกี้กักตัวอยู่บ้านหนีโควิดกันหมดแล้ว”

“พอออกมาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนมีอิทธิพลบางอย่างที่ไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ก็ยอมๆ เฉยๆ ไป ปรากฎว่าผมมีคิวจะไปต่อวันที่ 14 มิ.ย. ผมซื้อผ่านเอเจนซี่ จะไปขายเซรั่มนางงาม หัวกระดาษขึ้นวันที่ 10 ว่าจองห้องข่าวบันเทิงเวิร์คพ้อยท์ พบว่ามีคนติดเชื้อโควิด จะมีการบิ๊กคลีนนิ่ง แต่มีขอยกเลิกการบันทึกเทปรายการออกไปก่อน เอเจนซี่แจ้งผมวันที่ 10 หมายความว่าวันที่ผมถูกหลอกไปนั่งในสตูดิโอคนเดียว แล้วตุ๊กกี้สตรีมมิ่งมาจากบ้าน แสดงว่าทางเวิร์คพ้อยท์แจ้งกับเอเจนซี่เมื่อวันที่ 9 และคนของเวิร์คพ้อยท์ได้ออกมายืนยันกับเอเจนซี่บางส่วน และเขาได้กำชับกับทุกคนว่าห้ามพูด นี่คือหลักฐาน เพราะฉะนั้นวันที่ผมไปแล้วตุ๊กกี้ไม่มา เป็นวันเดียวกับที่เขาส่งข่าวให้กับเอเจนซี่ และกำชับว่าขอให้เป็นความลับ แต่บังเอิญว่ามันต้องไม่ลับครับ เพราะนี่คือคุณณวัฒน์

ฉะนั้นหลักฐานทั้ง 3 แผ่นเป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในเวิร์คพ้อยท์ว่าพยายามปกปิดเรื่องของการระบาดโควิด สามารถไปเสิร์จหาดูเทปรายการห้องข่าวเวิร์คพ้อยท์วันที่ 9 มิ.ย. ได้ เทปนั้นจะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมผมไปอยู่ตามลำพัง ทั้งที่พิธีกรทั้งคู่หนีโควิดออกจากสตูฯ ไปแล้ว และตอกย้ำด้วยไลน์ ซึ่งเจ้าของพร้อมเป็นสักขีพยานให้อยู่แล้วล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาเป็นเอเจนซี่ใหญ่ที่ผมซื้อโฆษณาเขา ทุกครั้งที่ผมไป ผมไปจ่ายเงินคุณ ไม่ได้ไปขอเงินคุณ คุณพาผมไปเสี่ยง แล้วคุณก็ปกปิดทุกอย่าง

เหตุการณ์ก็ยังเงียบ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่เวิร์คพ้อยท์จะออกมาประกาศว่ามีคนติดโควิด เพราะขณะนั้นทางศบค.เขาให้ทุกคนช่วยกันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น แต่ด้วยกฎตอนนั้น ผมว่าถ้าเป็นวันนี้ผมพูดไปแล้วล่ะ แต่วันนั้นผมไม่กล้าพูด เนื่องจากทุกคนก็ไม่กล้าพูด เพราะมีการกึ่งบังคับไม่ให้พูดอยู่ตลอดเวลา ถ้าพูดอาจจะผิดกฎหมาย ถ้าพูดอาจจะถูกฟ้องได้ มันก็เลยเป็นการช่วยกันปิดเพื่อโควิดระบาดมากขึ้น นี่คือข้อเท็จจริง ชัดเจนด้วยหลักฐานทุกประการ”

“กลับไปที่อีกหนึ่งหลักฐานแน่ชัด คุณมดดำ น้องรัก คุณน็อต คุณบุ๊คโกะ ทั้ง 3 คนนี้เป็นคนที่รู้ ให้กลับไปดูรายการแฉ วันที่ 15 มิ.ย. ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง อยู่ในมือถือของ 3 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ 3 คนนี้เป็นคำตอบสุดท้ายที่อึดอัดทุกคนพูดไม่ได้

พอวันที่ 16 มิ.ย. ผมก็ไปอัดรายการ ผู้หญิงทำมาหากิน ซึ่งผมไม่เจอดาราผู้หญิงคนนั้น แล้วผมก็ไม่เจอเขาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ด้วย ผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น อยู่ๆ วันที่ 16 มิ.ย. ทางเวิร์คพ้อยท์ถึงยอมคายคำตอบออกมาว่ามีการติดโควิด มีเพียงจดหมายใบเล็กๆ ฉบับเดียว ที่ใช้รูปพิธีกรชื่อกาลเวลา กับธนพัฒน์ คู่กับตึกเวิร์คพ้อยท์ สวัสดีพี่ตานะครับถ้าดูอยู่ แล้วเขียนประกาศอย่างเป็นทางการแค่ 3 บรรทัด ลงประกาศวันที่ย้อนหลังข้างล่างเป็นวันที่ 9 มิ.ย. วันที่ 15 มิ.ย.ยังไม่ได้ประกาศสู่สาธารณะ แต่เมื่อถูกสื่อมวลชนรายล้อมมาเยอะ คุณประกาศด้วยเอกสารฉบับเล็กๆ ฉบับเดียว และเทคนิคของคุณคือลงวันที่ 9 มิ.ย. และผมรู้ว่าคนในนั้นติดเท่าไหร่ เพราะมีเมียเพื่อนอยู่ในนั้น ประเด็นคือระบาดในนั้นมานาน แต่ปกปิด และพาผมไปเสี่ยง มันอันตรายต่อชีวิตผม เพราะสายพันธุ์ที่ผมโดนเป็นสายพันธุ์ละแวกนั้น ที่เร็วและแรงมาก ผมรู้สึกส่วนตัวว่าผมเจอสายพันธุ์เดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์กับคุณโก๊ะตี๋ อารามบอยนะครับ

ผมรู้สึกว่าสถานีโทรทัศน์เป็นสื่อสารมวลชนที่ต้องใช้จรรยาบรรณสูงมากในการทำงาน เปรียบเสมือนการประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ปกปิดจนมันเละแบบนี้ นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเรียกร้องว่ามันไม่เหมาะ ก็ต้องออกมารับผิดชอบ ผมก็ไม่เรียกร้องอะไรหรอกครับประเด็นนี้”

“อีกประเด็นที่สำคัญคือพนักงานในช่อง นำโดยคุณดาว ผมหยิกๆ ที่ดูแลศิลปินทั้งหมด เมื่อผมติดโควิดก็ได้แชตในกรุ๊ปส่วนตัว เป็นกรุ๊ปที่รุมด่าผม ด่าโดยมีหลักฐานทุกประการ ด่าแบบน่าเกลียดมาก ต่อให้ไม่ลงชื่อ แต่พูดถึงผม ทำให้ผมรู้ว่าคนในวงการบันเทิงเป็นคนที่ไม่น่าคบเลย ผมเห็นหมดแล้วว่าใครอยู่ในนั้น มีดาราหลายคน มีแทค ภรัณยู อยู่ในนั้น ผมถามแทค ภรัณยู ครับว่า พี่น่ะเอ็นดูน้องมาตลอด ทำไมน้องจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนั้นกับพี่ด้วยในกรุ๊ปนั้น ถึงแม้ตุ๊กกี้ก็เถอะ พี่คิดว่าพี่ก็เมตตาหนูมากนะ ตลอดเวลาที่พี่เจอหนูนับครั้งไม่ถ้วน พี่เป็นเด็กบ้านนอกคนนึง แล้วพี่ก็เมตตาเด็กบ้านนอก เจอกันทำอะไรก็ได้ เพราะพี่รู้สึกว่ามันง่าย และพี่ก็จริงใจกับทุกคน พี่ก็เลยเผลอจริงใจ

แต่วันที่พี่เป็นโควิดตุ๊กกี้โพสต์ถึงพี่แบบนั้น ต่อให้ไม่ลงชื่อ ก็เหมือนตุ๊กกี้เอาตีนถีบหน้าพี่ แต่พี่ไม่โกรธนะ พี่รู้จักตุ๊กกี้ดีขึ้น ก็แค่ไม่ต้องรู้จักกันอีกต่อไป ก็แค่นั้นเอง ส่วนแทค ก็ไม่ต้องรู้จักกันอีกต่อไปแค่นั้นเอง ส่วนดาราอีกหลายคนที่อยู่ในกรุ๊ปปิด โดยที่คุณดาวนำแชตด่า เห็นแล้วหลายคน เป็นดาราที่เคยเอิงเอยด้วยอะไรด้วย ก็เอาเป็นว่าทั้งหมดที่อยู่ในแชตประมาณ 30 หน้า ผมจะให้กับคุณตา ปัญญา โดยตรงเท่านั้น ก็ไม่ต้องคบกัน เกิดเป็นดาราหัดมีศักดิ์ศรีในการทำมาหากิน แต่เข้าใจนะ เพราะคุณดาวเธอมีอิทธิพลนี่ คุณดาวเธอเป็นคนแจกงาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องสอพลอเป็นเรื่องปกติ

เพราะฉะนั้นเคสนี้ผมพูดให้คุณดาวสามช่า ฉายาเขา ผมไม่ทำอะไรทางกฎหมายกับคุณ เพราะคุณปิดไว้สำหรับห้องด่าส่วนตัว ด่าผมล้วนๆ คุณไม่ได้เปิดสาธารณะ ผมไม่เอาโทษโกรธเคืองคุณ แต่ผมเอาความรับผิดชอบว่าคุณปัญญา นิรันดร์กุลจะทำอะไรกับพวกคุณ ประโยคนึงที่เป็นประโยคที่เลวมาก ว่าจะไม่ให้ผมผ่านมาเหยียบที่เวิร์คพ้อยท์อีกเลย ยังมีอีกหลายคำในนั้นที่มันสาหัสเหลือเกิน นำโดยคุณดาว ผมไม่เอาโทษอะไรคุณ เหลือที่วินัยเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณปัญญา นิรันดร์กุลจะทำอะไรกับคุณ หรือไม่ทำอะไรกับคุณ หรือเป็นการกระทำที่คุณปัญญา นิรันดร์กุลทราบแล้วอยากให้ทำก็เท่านั้นเองครับ ผมก็อยากจะรู้ ไม่ได้ว่าอะไรเลย”

“ผมถามนิดนึง บริษัทเวิร์คพ้อยท์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธรรมมาภิบาลมีไหม ด่าลูกค้าแบบนี้ดีไหม การด่าลูกค้าว่าจะไม่ให้กลับไปเหยียบอีกเลยในอาณาจักรเวิร์คพ้อยท์ ผมมีหลักฐานหมด คุณดาว คุณเป็นคนทำลายธรรมาภิบาลของเวิร์คพ้อยท์ ผมไม่รู้ คุณปัญญา นิรันดร์กุล อาจไม่ได้เกี่ยวข้อง ขออนุญาตยกเว้นแกไว้ก่อน สิ่งหนึ่งที่ผมจะคือทำหนังสือต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วยตรวจสอบข้อธรรมาภิบาล และการใช้นโยบายกับลูกค้า ผมเป็นลูกค้า ผมเป็นคนเอาเงินไปให้ แล้วบริษัทปิดห้องด่าผม แล้วบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ผมอยากจะถามว่าแบบนี้จะคิดอย่างไร ผมอยากจะถามกสทช.ว่า ถ้าสถานีโทรทัศน์มีพฤติกรรมที่เป็นการแพร่ระบาดโควิด และทำให้เข้าสู่ข้อมูลเท็จ เกิดการสุ่มเสี่ยง กสทช.ลงโทษอย่างไร ผมอยากรู้

สุดท้ายเรื่องส่วนตัวของผม คุณณวัฒน์ก็มีราคา มีคุณค่า เกิดมาเป็นมนุษย์ผมก็มีคุณค่าในตัวผม แต่บริษัทเวิร์คพ้อยท์ทำให้ผมมีความทุกข์ ทำให้ผมรู้สึกสูญเสีย รู้สึกย่ำแย่ คุณปัญญา นิรันดร์กุลมีอะไรจะปลอบขวัญผมไหม สักเท่าไหร่ เพราะผมเสียขวัญ แต่ผมไม่ได้ไปขอร้องทางกฎหมายนะ ผมต้องการดูน้ำใจ ปัญญา นิรันดร์กุล กับชีวิตณวัฒน์ ให้เท่าไหร่ คำถามที่ฝากเอาไว้มีเพียงเท่านี้”

“คุณกรรชัยดูอยู่ไหม เวลาคุณเล่าข่าวเอาเนื้อเยอะๆ อย่าเอาแต่เกาเหลาโหรงเหรง พวกคุณบอกว่ารู้จริง ผมเตือนคุณกรรชัย ก็เป็นน้องที่ผมสนิทนะ บางทีที่คุณโทร.ไปหาเขาน่ะ มันคือนักแสดง เหมือนที่ผมเจอ ให้ใจแต่ไม่เคยให้อะไรกลับมา คุณอย่าคิดว่าคุณได้ข้อมูลมาเจ๋งที่สุดแล้ว วงการบันเทิงมันดับแล้ว คุณกรรชัยโชว์ตัวหน่อย ผมลำบากขนาดไหนที่ผมต้องวิ่งไปหาคุณที่รายการโหนกระแส ไปซื้อโฆษณาคุณลำบากเหลือเกิน ไอ้นั่นไอ้นี่ก็พูดไม่ได้ กสทช.ไม่ให้พูด เอาเงินไปให้คุณครั้งนึงตั้งหลายแสน ต้องไปนั่งรอคุณกว่าจะได้ทอล์ก 3 นาที นั่นนี่ก็ไม่ให้พูด กรรชัยมาทำโหนกันนี่ มาโหนแบบดังๆ นี่ โหนอันเซ็นเซอร์เลย”

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( "ณวัฒน์" ไลฟ์ฟาด "ปัญญา นิรันดร์กุล" ปมทำชีวิตมีความเสี่ยง-เสียขวัญ ตอก "กรรชัย" อย่าคิดว่าเจ๋ง - สยามรัฐ )
https://ift.tt/3BPZqMr
บันเทิง

Bagikan Berita Ini

0 Response to ""ณวัฒน์" ไลฟ์ฟาด "ปัญญา นิรันดร์กุล" ปมทำชีวิตมีความเสี่ยง-เสียขวัญ ตอก "กรรชัย" อย่าคิดว่าเจ๋ง - สยามรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.